ทั้งหมด
บันทึกการอบรมสืบค้นสิทธิบัตรยาสามารถดาวน์โหลดได้จาก https://home.mycloud.com/action/share/aa3e8f76-9670-47f2-ad2d-c5c8d17511d7
เว็บไซต์ NDI จะดำเนินการปรับปรุงเว็บไซต์เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการให้บริการข้อมูลกับ บุคคลทั่วไปและบุคลากรทางการแพทย์ ในวันเสาร์ ที่ 11 พฤษภาคม 2567 เวลา 00.00 ถึงวัน อาทิตย์ ที่ 12 พฤษภาคม 2567 00.00 น. จึงทําให้ ไม่สามารถเข้าใช้งานเว็บไซต์ NDI ได้ใน ช่วงเวลาดังกล่าว จึงเรียนมาเพื่อทราบ และขออภัย ในความไม่สะดวก มาณที่นี้ด้วย ขอบคุณค่ะ
ด้วยกองนโยบายแห่งชาติด้านยา สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา ซึ่งมีบทบาทในการบริหารจัดการยาขาดแคลน ประสานกับภาคีเครือข่ายที่เกี่ยวข้อง ได้รับรายงานสถานการณ์การขาดแคลนยาเม็ด Nitrazepam 5 mg ซึ่งมีความจำเป็นในการรักษาผู้ป่วยเด็กที่เป็นโรคลมชักหลายชนิด โดยเฉพาะอย่างยิ่งกลุ่มอาการโรคลมชักที่รักษายากและไม่ตอบสนองต่อยากันชักอื่นได้ กองนโยบายแห่งชาติด้านยาร่วมมือกองควบคุมวัตถุเสพติดและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง อาทิ ราชวิทยาลัย สมาคม และชมรมแพทย์ ในระหว่าง พ.ศ. 2564 และ 2566 โดยจัดประชุมหารือท่านผู้เชี่ยวชาญออนไลน์ เพื่อระดมสมองข้อคิดเห็น นำมาเป็นแนวทางปฏิบัติในการบริหารจัดการแก้ไขปัญหาการขาดแคลนยาทั้งในระยะสั้นและระยะยาว นั้น ในการนี้ กองนโยบายแห่งชาติด้านยา ขอเรียนว่า ยาเม็ด Nitrazepam 5 mg พร้อมจำหน่ายตั้งแต่วันที่ 1 เมษายน พ.ศ. 2567 และปรับราคาเป็น 204 บาทต่อกล่อง บรรจุกล่องละ 30 เม็ด โดยสามารถสั่งซื้อที่กลุ่มเงินทุนหมุนเวียนยาเสพติด สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา รายละเอียดตามสิ่งที่ส่งมาด้วย และขอขอบคุณท่านผู้เชี่ยวชาญที่ให้ข้อเสนอแนะที่เป็นประโยชน์ในการบริหารจัดการดังกล่าว ทั้งนี้หากพบปัญหาการขาดแคลนยาจำเป็นอื่นๆ ท่านสามารถลงทะเบียนเปิดสิทธิ์ เมื่อได้รับยืนยัน User และ password ผ่านทางอีเมลแล้ว สามารถส่งรายงานแจ้งได้ทางแอปพลิเคชัน ช่องทางตามลิงค์ดังนี้ http://bit.ly/formdrugshortage
ตามหนังสือด่วนที่สุด ที่ กค (กวจ) ๐๔๐๕.๒/ว ๒๑๓ ลงวันที่ ๗ พฤษภาคม ๒๕๖๒ คณะกรรมการวินิจฉัยปัญหาการจัดซื้อจัดจ้างและการบริหารพัสดุภาครัฐ กรมบัญชีกลางได้กำหนดแนวทางปฏิบัติในกรณีที่ยารายการใดที่คณะกรรมการพัฒนาระบบยาแห่งชาติ โดยคณะอนุกรรมการพิจารณากำหนดราคากลางยาอยู่ระหว่างการพิจารณาทบทวนปรับปรุงราคากลางยา เพื่อกำหนดราคากลางยาใหม่ นั้น เพื่อให้เป็นไปตามแนวทางปฏิบัติดังกล่าว คณะอนุกรรมการพิจารณากำหนดราคากลางยา โดยกองนโยบายแห่งชาติด้านยา ในฐานะฝ่ายเลขานุการจึงขอแจ้งประกาศรายการยาที่คณะอนุกรรมการพิจารณากำหนดราคากลางยาอยู่ระหว่างพิจารณาทบทวนปรับปรุงราคากลางยา ตามมติอนุกรรมการฯ ในการประชุมครั้งที่ 3/2567 เมื่อวันที่ 11 เมษายน 2567 รายละเอียดตามสิ่งที่ส่งมาด้วย เพื่อให้หน่วยงานของรัฐใช้อ้างอิงในการจัดซื้อยาตามพระราชบัญญัติการจัดซื้อจัดจ้างและการบริหารพัสดุภาครัฐ พ.ศ. ๒๕๖๐ ต่อไป จึงเรียนมาเพื่อโปรดทราบ
ขอแสดงความยินดีกับ ภญ.นภาภรณ์ ภูริปัญญวานิช เภสัชกรชำนาญการพิเศษ กองนโยบายแห่งชาติด้านยา สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา ในโอกาสที่ได้รับการคัดเลือกเป็นข้าราชการพลเรือนดีเด่น ประจำปี 2566
ด้วย สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา จัดประชุมเชิงปฏิบัติการ รับฟังข้อคิดเห็น เพื่อพัฒนาหลักเกณฑ์ การจัดลำดับยาขาดแคลน และจัดทำคู่มือ/แนวทางการแก้ไขปัญหายาขาดแคลน วันที่ 14 มีนาคม 2567 มีผู้เข้าร่วมประชุมจากภาครัฐ เอกชน และประชนชน ประมาณ 50 ท่าน กองนโยบายแห่งชาติด้านยา ได้นำผลการประชุมมาจัดทำกรอบรายการยาตามลำดับความสำคัญตามแนวทางที่พัฒนาขึ้น ซึ่งประกอบด้วยผลิตภัณฑ์ยาจำนวน 22 รายการและ เวชภัณฑ์ จำนวน 4 รายการ โดยมีวัตถุประสงค์ เพื่อเป็นการติดตามเฝ้าระวังปัญหาการขาดแคลนยาและเวชภัณฑ์ผ่านโปรแกรม Stockpile 3 Application ให้สอดคล้องหลักเกณฑ์ รายละเอียดตามสิ่งที่ส่งมาด้วย นั้น ในการนี้ กองนโยบายแห่งชาติด้านยา จึงขอความอนุเคราะห์ผู้รับอนุญาตผลิตหรือนำเข้ายาแผนปัจจุบัน ในการส่งรายงานข้อมูลปริมาณยาคงคลัง (Stockpile) ของยาจำนวน 22 รายการ ผ่านแอพพลิเคชั่น Stockpile 3 ที่กองนโยบายแห่งชาติด้านยาพัฒนาขึ้น ทั้งนี้ เพื่อใช้เป็นฐานข้อมูลสำหรับวางแผนบริหารจัดการด้านยาให้มีประสิทธิภาพ วันที่ 1 ของทุกเดือน โดยเริ่มดำเนินการในวันที่ 1 พฤษภาคม 2567 หากมีข้อสงสัยประการใด โปรดติดต่อประสานงานทางจดหมายอิเล็กทรอนิกส์drugshortages.th@gmail.com เท่านั้น โดยขอยืนยันว่าข้อมูลที่ได้รับจะนำไปวิเคราะห์ปริมาณยาคงคลังในภาพรวมของประเทศ และจะไม่เปิดเผยต่อบุคคลภายนอกเว้นแต่จะได้รับความยินยอมจากเจ้าของข้อมูลก่อนเท่านั้น จึงเรียนมาเพื่อโปรดพิจารณาให้ความอนุเคราะห์ข้อมูลภายในระยะเวลาที่กำหนดด้วย จะเป็นพระคุณ
ตามหนังสือด่วนที่สุด ที่ กค (กวจ) ๐๔๐๕.๒/ว ๒๑๓ ลงวันที่ ๗ พฤษภาคม ๒๕๖๒ คณะกรรมการวินิจฉัยปัญหาการจัดซื้อจัดจ้างและการบริหารพัสดุภาครัฐ กรมบัญชีกลางได้กำหนดแนวทางปฏิบัติในกรณีที่ยารายการใดที่คณะกรรมการพัฒนาระบบยาแห่งชาติ โดยคณะอนุกรรมการพิจารณากำหนดราคากลางยาอยู่ระหว่างการพิจารณาทบทวนปรับปรุงราคากลางยา เพื่อกำหนดราคากลางยาใหม่ นั้น เพื่อให้เป็นไปตามแนวทางปฏิบัติดังกล่าว คณะอนุกรรมการพิจารณากำหนดราคากลางยา โดยกองนโยบายแห่งชาติด้านยา ในฐานะฝ่ายเลขานุการจึงขอแจ้งประกาศรายการยาที่คณะอนุกรรมการพิจารณากำหนดราคากลางยาอยู่ระหว่างพิจารณาทบทวนปรับปรุงราคากลางยา ตามมติอนุกรรมการฯ ในการประชุมครั้งที่ 2/2567 เมื่อวันที่ 28 กุมภาพันธ์ 2567 รายละเอียดตามสิ่งที่ส่งมาด้วย เพื่อให้หน่วยงานของรัฐใช้อ้างอิงในการจัดซื้อยาตามพระราชบัญญัติการจัดซื้อจัดจ้างและการบริหารพัสดุภาครัฐ พ.ศ. ๒๕๖๐ ต่อไป จึงเรียนมาเพื่อโปรดทราบ
ด้วยคณะอนุกรรมการพัฒนาบัญชียาหลักแห่งชาติ ในช่วงการประชุมเดือนพฤษภาคม 2566 ถึงเดือนมกราคม 2567 ได้จัดทำ (ร่าง) แนวทางกำกับการใช้ยา และแบบฟอร์มกำกับการใช้ยาในบัญชี จ (2) เสร็จเรียบร้อยแล้ว รายละเอียดตามเอกสารแนบด้านล่าง นั้น บัดนี้ (ร่าง) แนวทางกำกับการใช้ยา และแบบฟอร์มกำกับการใช้ยาในบัญชี จ (2) ข้างต้น อยู่ระหว่างขั้นตอนการเสนอประธานกรรมการพัฒนาพัฒนาระบบยาแห่งชาติลงนาม และประกาศทางราชกิจจานุเบกษา ทั้งนี้ เพื่อให้การบริหารจัดการการเข้าถึงยาของผู้ป่วยเป็นไปด้วยความเรียบร้อย กองนโยบายแห่งชาติด้านยาจึงขอประชาสัมพันธ์ให้กับกองทุนและสถานพยาบาลรับทราบเป็นข้อมูลในเบื้องต้น สำหรับแนวทางการเบิกจ่ายยานั้นให้เป็นไปตามที่แต่ละกองทุนประกาศกำหนด จึงประกาศให้ทราบโดยทั่วกัน
อ้างอิงถึง 1.หนังสือด่วนที่สุด ที่ สธ 1015/ว 545 ลงวันที่ 10 กรกฎาคม 2566 2.หนังสือด่วนที่สุด ที่ สธ 1015/ว 606 ลงวันที่ 19 กรกฎาคม 2566 3.หนังสือด่วนที่สุด ที่ สธ 1015/ว 696 ลงวันที่ 25 สิงหาคม 2566 4.หนังสือด่วนที่สุด ที่ สธ 1015/ว 742 ลงวันที่ 15 กันยายน 2566 5.หนังสือด่วนที่สุด ที่ สธ 1015/ว 830 ลงวันที่ 26 ตุลาคม 2566 6.หนังสือด่วนที่สุด ที่ สธ 1015/ว 886 ลงวันที่ 30 พฤศจิกายน 2566 7.หนังสือด่วนที่สุด ที่ สธ 1015/ว 959 ลงวันที่ 28 ธันวาคม 2566 ตามที่อ้างถึง กองนโยบายแห่งชาติด้านยา แจ้งรายการยาที่คณะอนุกรรมการพิจารณากำหนดราคากลางยาอยู่ระหว่างการพิจารณาทบทวนราคากลางยา อย่างไรก็ตาม คณะกรรมการพัฒนาระบบยาแห่งชาติได้ออกประกาศคณะกรรมการฯ เรื่อง กำหนดราคากลางยา ลงวันที่ 4 มกราคม 2567 ซึ่งประกาศในราชกิจจานุเบกษา เมื่อวันที่ 23 มกราคม 2567 ส่งผลให้หน่วยงานของรัฐจัดซื้อยาไม่ได้ นั้น เพื่อให้การจัดซื้อยาเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ กองนโยบายแห่งชาติด้านยา จึงขอยกเลิกหนังสือที่อ้างถึงข้างต้น และขอแจ้งประกาศรายการยาที่คณะอนุกรรมการพิจารณากำหนดราคากลางยาอยู่ระหว่างพิจารณาทบทวนปรับปรุงราคากลางยา จำนวน 41 รายการ ตามไฟล์แนบ เพื่อให้หน่วยงานของรัฐใช้อ้างอิงในการจัดซื้อยาตามพระราชบัญญัติการจัดซื้อจัดจ้างและการบริหารพัสดุภาครัฐ พ.ศ. 2560
คณะอนุกรรมการพัฒนาบัญชียาหลักแห่งชาติ ร่วมกับสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา และศูนย์ความเป็นเลิศด้านชีววิทยาศาสตร์ องค์การมหาชน (TCELS) จัดประชุมเชิงปฏิบัติการ เรื่อง ถอดบทเรียนจากผลการดำเนินงานพัฒนาบัญชียาหลักแห่งชาติ ระยะต้น (ปี พ.ศ. 2565-2566) เพื่อพัฒนาระบบการคัดเลือกยาในบัญชียาหลักแห่งชาติให้มีประสิทธิภาพและทันการณ์ (NLEM moving forward 2024) ระหว่างวันที่ 15 ถึง 17 มกราคม 2567 ณ โรงแรม ณ ทรีธารา ริเวอร์ไซด์ รีสอร์ท อัมพวา จังหวัดสมุทรสงคราม และประชุมผ่านสื่ออิเล็กทรอนิกส์ (โปรแกรม Zoom) ซึ่งมีผู้สนใจเข้าร่วมประชุมรวมกว่า 50 คน ทั้งในส่วนของคณะอนุกรรมการพัฒนาบัญชียาหลักแห่งชาติ ประธานคณะทำงานภายใต้การแต่งตั้งของคณะอนุกรรมการฯ ผู้แทนกองทุนในระบบประกันสุขภาพภาครัฐ ตลอดจนผู้แทนภาคประชาชน โดยมีวัตถุประสงค์ของการประชุม คือ 1) เพื่อพัฒนาระบบการคัดเลือกบัญชียาหลักแห่งชาติให้มีประสิทธิภาพและทันการณ์ 2) เพื่อประเมินผล วิเคราะห์ ถอดบทเรียน และสรุปผลการดำเนินงานพัฒนาบัญชียาหลักแห่งชาติระยะต้น (ปี พ.ศ. 2565-2566) โดยเฉพาะกลุ่มยาที่จัดเป็นยาที่มีความจำเป็นเร่งด่วน ยา/กลุ่มโรคที่เป็นนโยบายของรัฐบาลให้ความสำคัญ และกลุ่มยาราคาแพง และ 3) เพื่อสร้างความเชื่อมั่นในระบบการคัดเลือกยาและพัฒนาการจัดการข้อมูลและหลักฐานเชิงประจักษ์ในการพิจารณาการคัดเลือกบัญชียาหลักแห่งชาติให้เป็นระบบ โดยในช่วงเช้าของวันที่ 15 มกราคม 2567 น.พ.สุวิทย์ วิบุลผลประเสริฐ ประธานอนุกรรมการพัฒนาบัญชียาหลักแห่งชาติ เป็นประธานเปิดการประชุม รวมทั้งได้รับเกียรติจาก นพ.ณรงค์ อภิกุลวณิช เลขาธิการคณะกรรมการอาหารและยา กล่าวปาฐกถาพิเศษ เรื่อง “สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยากับเป้าหมายในการพัฒนาบัญชียาหลักแห่งชาติเพื่อนำไปสู่ความสำเร็จที่ยั่งยืน” จากนั้นต่อด้วยเวทีเสวนา เรื่อง “ระบบการพิจารณายาในและยานอกบัญชียาหลักแห่งชาติของกองทุนในระบบประกันสุขภาพภาครัฐ” โดย ผู้แทนสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ ผู้แทนกรมบัญชีกลาง ผู้แทนสำนักงานประกันสังคม ผู้แทนกลุ่มผู้ป่วย และผู้แทนโรงพยาบาล โดยผู้เข้าร่วมการเสวนา และวิทยากรได้แบ่งปันประสบการณ์ด้วยกันจากหลายมุมมอง และในช่วงบ่าย ฝ่ายเลขานุการงานบัญชียาหลักแห่งชาติได้นำเสนอ “สรุปผลการดำเนินงานพัฒนาบัญชียาหลักแห่งชาติ ระยะต้น (ปี พ.ศ. 2565-2566)” และการพัฒนา “ระบบ dashboard ของบัญชียาหลักแห่งชาติ” วันที่สองของการประชุมในช่วงเช้า (16 มกราคม 2567) ได้มีข้อเสนอที่สำคัญจากมุมมองของคณะทำงานสนับสนุนวิชาการของบัญชียาหลักแห่งชาติในหลายประเด็น ได้แก่ “การปรับปรุงกระบวนการศึกษาทางเศรษฐศาสตร์เพื่อตอบสนองต่อระบบการคัดเลือกบัญชียาหลักแห่งชาติให้รวดเร็วและมีประสิทธิภาพ” โดยผู้แทนคณะทำงานด้านเศรษฐศาสตร์สาธารณสุข “ข้อเสนอกลไกและกระบวนการในการพิจารณา MEA เพื่อเพิ่มการเข้าถึงยาราคาแพงในบัญชียาหลักแห่งชาติ” โดยผู้แทนคณะทำงานต่อรองราคายาเพื่อบรรจุในบัญชียาหลักแห่งชาติ และ “การปรับบัญชียาพิเศษที่กำหนดแนวทางการใช้ยา (restricted list; R2) เป็นบัญชียาปกติ” โดยผู้แทนคณะทำงานกำกับดูแลการสั่งใช้ยาในบัญชี จ (2) และยาที่มีเงื่อนไขการสั่งใช้ จากนั้นในช่วงบ่ายดำเนินการประชุมระดมสมองเพื่อออกแบบระบบการคัดเลือกบัญชียาหลักแห่งชาติให้มีประสิทธิภาพและทันการณ์ จำนวน 2 กลุ่ม ในรูปแบบ World café โดยผู้เข้าร่วมประชุมได้แสดงความคิดเห็น และมีข้อเสนอที่เป็นประโยชน์ต่อการดำเนินงานพัฒนาบัญชียาหลักแห่งชาติหลายประการ และวันสุดท้ายของการประชุม (17 มกราคม 2567) ฝ่ายเลขานุการงานบัญชียาหลักแห่งชาติได้ดำเนินการสรุปผลการประชุมตลอดจนจัดทำข้อเสนอต่อคณะอนุกรรมการพัฒนาบัญชียาหลักแห่งชาติได้นำไปพิจารณาและประยุกต์ใช้ เพื่อให้เกิดประโยชน์ต่อประชาชนและเข้าถึงรายการยาที่ทันสมัยได้อย่างรวดเร็วต่อไป สำหรับการติดตามความคืบหน้าของการพิจารณายาในบัญชียาหลักแห่งชาติ ปัจจุบันกองนโยบายแห่งชาติด้านยาได้ดำเนินการพัฒนาระบบติดตามการพิจารณายาในบัญชียาหลักแห่งชาติ (ระบบ dashboard) ในรอบปี พ.ศ. 2565 - 2567 ทาง link bit.ly/edstatus65-67 ข่าวกองนโยบายแห่งชาติด้านยา (17 มกราคม 2567)