ทั้งหมด
อ้างถึง 1. หนังสือด่วนที่สุด ที่ สธ 1015/ว401 ลงวันที่ 27 กรกฎาคม 2565 2. หนังสือด่วนที่สุด ที่ สธ 1015/ว525 ลงวันที่ 19 กันยายน 2565 3. หนังสือด่วนที่สุด ที่ สธ 1015/ว529 ลงวันที่ 22 กันยายน 2565 4. หนังสือด่วนที่สุด ที่ สธ 1015/ว529 ลงวันที่ 10 พฤศจิกายน 2565 5. หนังสือด่วนที่สุด ที่ สธ 1015/ว793 ลงวันที่ 21 ธันวาคม 2565 ตามหนังสือที่อ้างถึง คณะอนุกรรมการพิจารณากำหนดราคากลางยา โดยกองนโยบายแห่งชาติด้านยา ในฐานะฝ่ายเลขานุการ แจ้งรายการยาที่คณะอนุกรรมการพิจารณากำหนดราคากลางยาอยู่ระหว่างพิจารณาทบทวนปรับปรุงราคากลางยาที่มีปัญหาจัดซื้อ เพื่อให้หน่วยงานของรัฐจัดซื้อยา โดยอ้างอิงราคาที่ได้มาจากการสืบราคาจากท้องตลาด ทั้งนี้ คณะอนุกรรมการฯ ยังพิจารณาไม่แล้วเสร็จ อย่างไรก็ตามคณะกรรมการพัฒนาระบบยาแห่งชาติ ได้ออกประกาศคณะกรรมการฯ เรื่อง กำหนดราคากลางยา ลงวันที่ 19 ธันวาคม 2565 ซึ่งประกาศในราชกิจจานุเบกษา เมื่อวันที่ 23 มกราคม 2566 ส่งผลให้หน่วยงานของรัฐจัดซื้อยาไม่ได้ โดยอ้างอิงราคาที่ได้มาจากการสืบราคาจากท้องตลาดเพื่อให้การจัดซื้อยาเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ คณะอนุกรรมการพิจารณากำหนดราคากลางยาโดยกองนโยบายแห่งชาติด้านยา ในฐานะฝ่ายเลขานุการ จึงขอยกเลิกหนังสือที่อ้างถึงข้างต้น และขอแจ้งประกาศรายการยาที่คณะอนุกรรมการพิจารณากำหนดราคากลางยาอยู่ระหว่างพิจารณาทบทวนปรับปรุงราคากลางยาที่ยังพิจารณาไม่แล้วเสร็จ จำนวน 26 รายการ (รายละเอียดตามไฟล์แนบ 1) เพื่อให้หน่วยงานของรัฐใช้อ้างอิงในการจัดซื้อยา ตามพระราชบัญญัติการจัดซื้อจัดจ้างและการบริหารพัสดุภาครัฐพ.ศ. 2560 ต่อไป
ประกาศคณะกรรมการพัฒนาระบบยาแห่งชาติ เรื่อง กำหนดราคากลางของยา ฉบับนี้ ได้แก้ไขปรับปรุงราคากลางยา จากประกาศฉบับเดิม (ฉบับลงวันที่ 6 มิถุนายน 2565) จำนวน 104 รายการ โดยมีรายการยาที่มีรายงานปัญหาการจัดซื้อ จำนวน 8 รายการ ดังต่อไปนี้ 1. Amoxicillin trihydrate + Potassium clavulanate dispersible tab 875 mg + 125 mg 2. Carmellose sodium(carboxymethylcellulose) eye drop 5 mg/1 ml (10 ml) 3. Olopatadine hydrochloride eye drop 1 mg/1 ml (5 ml) 4. Phenylephrine hydrochloride eye drop 100 mg/1 ml (10 ml) 5. Povidone-iodine sol 10% (30 ml) 6. Povidone-iodine sol 10% (450 ml) 7. Povidone-iodine sol 10% (4.5 litre) 8. Sulodexide cap 250 lsu และปรับปรุงเพิ่มเติมราคากลางยาของยากลุ่มที่มีการผูกขาดจำนวน 96 รายการ ได้แก่ รายการยาในกลุ่มที่ 45 กลุ่มยา Antihistamines for Systemic Use ลำดับที่ 16 – 25, ยาในกลุ่มที่ 55 กลุ่มยา Antipsoriatics for systemic use ลำดับที่ 9 – 11, รายการยาในกลุ่มที่ 80.1 กลุ่มยา Water soluble iodinated contrast, รายการยาในกลุ่มที่ 80.2 กลุ่มยา Drug use for interventional radiology, รายการยาในกลุ่มที่ 80.3 กลุ่มยา Magnetic resonance contrast media, รายการยาในกลุ่มที่ 88 กลุ่มยา Drugs used in vestibular disorders, รายการยาในกลุ่มที่ 89 กลุ่มยา Antimigraine preparations และรายการยาในกลุ่มที่ 90 กลุ่มยา Anti-acne preparations ดังปรากฏตามที่แนบท้ายประกาศฯ ฉบับนี้ สำหรับรายการยาอื่นๆ ยังอยู่ในระหว่างขั้นตอนการพิจารณาปรับปรุงราคากลางยา ตามหลักเกณฑ์และขั้นตอนการกำหนดราคากลางยาที่คณะกรรมการฯ กำหนด
คณะอนุกรรมการพัฒนาบัญชีวัคซีนหลักแห่งชาติ อยู่ระหว่างการเปิดรับแบบเสนอวัคซีนเพื่อปรับปรุงบัญชีวัคซีนหลักแห่งชาติ รอบปี พ.ศ.2565-2567 ตั้งแต่วันนี้ ถึงวันที่ 13 กุมภาพันธ์ 2566 เวลา 16.30 น. โดยมีขั้นตอนการยื่นแบบเสนอวัคซีน ดังนี้ 1. กรอกแบบเสนอวัคซีนเพื่อปรับปรุงบัญชีวัคซีนหลักแห่งชาติ 1. ผู้เสนอจากหน่วยงานภาคเอกชน download แบบเสนอวัคซีนที่นี่ 2. ผู้เสนอจากหน่วยงานภาครัฐ download แบบเสนอวัคซีนที่นี่ 2. จัดส่งแบบเสนอวัคซีนที่กองนโยบายแห่งชาติด้านยา อาคาร 4 ชั้น 5 สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา ในวัน และเวลาราชการ โดยปิดรับแบบเสนอยาวันที่ 13 กุมภาพันธ์ 2566 เวลา 16.30 น. โดย • แบบฟอร์ม EV1 ให้ส่งเป็น hard copy และ electronic file (CD/DVD) • แบบฟอร์ม EV2 (เฉพาะผู้เสนอจากหน่วยงานภาคเอกชน), EV3, EV4 และเอกสารอ้างอิง ให้ส่งเฉพาะ electronic file (CD/DVD) หมายเหตุ • เปิดรับการยื่นแบบเสนอวัคซีนที่กองนโยบายแห่งชาติด้านยาเท่านั้น (ไม่รับการยื่นเสนอทาง online) • หากเอกสารที่ส่งกรอกข้อมูลไม่ครบถ้วนเพียงพอหรือไม่ถูกต้อง คณะอนุกรรมการฯ สงวนสิทธิ์ไม่รับพิจารณาแบบเสนอวัคซีนนี้ • สามารถศึกษาเอกสารชี้แจง แนวทางการเสนอวัคซีนเพื่อปรับปรุงบัญชีวัคซีนหลักแห่งชาติ ได้จาก Link นี้ • กรณีมีข้อสงสัยเพิ่มเติม ให้สอบถามทางอีเมล nlev.fda@gmail.com Header Image by Freepik
ด้วยคณะกรรมการพัฒนาระบบยาแห่งชาติ มีอำนาจหน้าที่แต่งตั้งคณะอนุกรรมการพัฒนาบัญชียาหลักแห่งชาติ และคณะอนุกรรมการพิจารณากำหนดราคากลางยา เพื่อปฏิบัติงานตามที่คณะกรรมการมอบหมาย โดยคณะอนุกรรมการฯ ได้มีการติดต่อประสานงานกับผู้รับอนุญาตผลิต/นำหรือสั่งยาเข้ามาในราชอาณาจักร ตามข้อมูลการติดต่อที่ผู้รับอนุญาตฯ แจ้งไว้กับกองนโยบายแห่งชาติด้านยา และอาจจะมีการเปลี่ยนแปลง นั้น เพื่อให้การติดต่อประสานงานระหว่างคณะอนุกรรมการฯ และผู้รับอนุญาตผลิต/นำหรือสั่งยาเข้ามาในราชอาณาจักรเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพและถูกต้อง กองนโยบายแห่งชาติด้านยา จึงขอความร่วมมือจากท่านแจ้งรายชื่อ และข้อมูลการติดต่อสื่อสารของผู้ประสานงานที่เป็นปัจจุบัน ในแบบฟอร์มแจ้งรายชื่อผู้ประสานงานตาม QR Code ท้ายหนังสือ ทั้งนี้ ขอให้ส่งเป็นไฟล์ข้อมูลอิเล็กทรอนิกส์มา ภายในเดือนกุมภาพันธ์ 2566 จึงเรียนมาเพื่อโปรดให้ความร่วมมือจัดส่งรายชื่อผู้ประสานงาน ภายในระยะเวลาที่กำหนดต่อไปด้วย จะเป็นพระคุณ Link แบบฟอร์มแจ้งรายชื่อผู้ประสานงาน : https://forms.gle/A2YmqVGwVd3Ks8BY8
ตามที่กองนโยบายแห่งชาติด้านยา สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา ในฐานะที่เป็นผู้รับผิดชอบหลักในการการบริหารจัดการแก้ไขปัญหายาขาดแคลนภายใต้โครงการสร้างความมั่นคงด้านยาและเวชภัณฑ์ในภาวะฉุกเฉิน ได้พัฒนาความร่วมมือร่วมกับผู้รับอนุญาตผลิตหรือนำสั่งยาแผนปัจจุบัน ในการเฝ้าระวังปริมาณการสำรองยาในประเทศผ่านระบบการเฝ้าระวังรายการยาและเวชภัณฑ์ยา (Stockpile 3) ที่ทางกองนโยบายแห่งชาติด้านยาได้พัฒนาขึ้น ซึ่งมีการดำเนินงานมาตั้งแต่เดือนมีนาคม 2563 เป็นต้นมาจนถึงปัจจุบัน โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อลดผลกระทบที่เกิดจากการขาดแคลนยาในสถานการณ์ฉุกเฉิน และแก้ไขปัญหายาขาดแคลนได้อย่างทันท่วงที เพื่อให้การดำเนินงานสอดคล้องกับสถานการณ์ในปัจจุบัน กองนโยบายแห่งชาติด้านยา มีการพัฒนาระบบรายงานและปรับปรุงกรอบรายการยาติดตามและเฝ้าระวัง จำนวน 78 รายการ จึงขอความอนุเคราะห์ท่านส่งสรุปรายงานข้อมูลปริมาณยาคงคลัง ทุกสิ้นเดือนของเดือนก่อน และรายงานข้อมูลทุกวันที่ 1 ของเดือนถัดไป โดยเริ่มดำเนินการในวันที่ 1 ธันวาคม 2565 ผ่านแอพพลิเคชั่น Stockpile 3 ดังรายละเอียดตามสิ่งที่ส่งมาด้วย 1) และ 2) ทั้งนี้ หากมีข้อสงสัยประการใด โปรดติดต่อประสานงานทางจดหมายอิเล็กทรอนิกส์ drugshortages.th@gmail.com เท่านั้น โดยขอยืนยันว่าข้อมูลที่ได้รับจะนำไปวิเคราะห์ปริมาณยาคงคลังในภาพรวมของประเทศ และจะไม่เปิดเผยต่อบุคคลอื่นเว้นแต่จะได้รับความยินยอมจากเจ้าของข้อมูลก่อนเท่านั้น จึงเรียนมาเพื่อโปรดพิจารณาให้ความอนุเคราะห์ข้อมูลภายในระยะเวลาที่กำหนดด้วย จะเป็นพระคุณ
ตามที่กองนโยบายแห่งชาติด้านยาได้มีการพัฒนาระบบบริหารจัดการยาขาดแคลนแบบบูรณาการ โดยให้สถานพยาบาลซึ่งเป็นผู้ใช้ยา และบริษัทยาทั้งผู้ผลิต/ผู้นำเข้าแจ้งสถานการณ์การขาดแคลนยามายังกองนโยบายแห่งชาติด้านยา ซึ่งเป็นหน่วยงานในการประสาน รับเรื่อง ตรวจสอบข้อมูล พิจารณาแนวทางแก้ไข ประชาสัมพันธ์ พร้อมทั้งติดตามและเฝ้าระวังปัญหาการขาดแคลนยาในประเทศ ในการนี้ กองนโยบายแห่งชาติด้านยา จึงขอประชาสัมพันธ์รายการยาที่มีปัญหาขาดแคลนรายเดือน ณ พฤศจิกายน 2565 จำนวน 26 รายการ เป็นรายการการยาที่อยู่ในสถานะยังขาดแคลน (Currently in shortage) จำนวน 17 รายการ เป็นยาที่อยู่ในสถานะแก้ไขเสร็จแล้ว (Resolved) จำนวน 9 รายการ ยาขาดแคลนที่ประชาสัมพันธ์บนเว็บไซต์ หมายถึง ยาที่มีความจำเป็นและส่งผลกระทบต่อระบบสาธารณสุข ซึ่งปัจจุบันปริมาณ Supply ไม่เพียงพอต่อความต้องการใช้ยาและ/หรือไม่สามารถคาดการณ์ระยะเวลาในการกลับมาจำหน่ายเป็นปกติได้ สาเหตุการขาดแคลน (Shortage Reasons) ที่แสดงผลบนเว็บไซต์ ได้แก่ (1) ปรับปรุง/แก้ไขทะเบียน/GMP (2) ขาดวัตถุดิบทางยา (3) บริษัทยกเลิกการผลิต/นำเข้า (4) มีปัญหาด้านการขนส่ง (5) ปริมาณความต้องการใช้ยาเพิ่มมากขึ้น (6) เรียกเก็บยาคืนจากท้องตลาด (7) อื่นๆ
ด้วยคณะอนุกรรมการพิจารณากำหนดราคากลางยาในการประชุมครั้งที่ 4/2565 เมื่อวันที่ 9 พฤศจิกายน 2565 มีมติเห็นชอบต่อหลักเกณฑ์ ขั้นตอน แนวปฏิบัติ และกรอบรายการยา ในการจัดทำราคากลางยา ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2566 ซึ่งได้นำไปรับฟังความคิดเห็นต่อผู้เกี่ยวข้องภาคเอกชนเรียบร้อยแล้ว เพื่อให้สอดคล้องตามขั้นตอนการกำหนดราคากลางยา ประธานอนุกรรมการฯ จึงเห็นควรให้แจ้งเวียนผู้ประกอบการที่เกี่ยวข้องเพื่อรับทราบต่อไป เพื่อให้การดำเนินการจัดทำราคากลางยาเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ กองนโยบายแห่งชาติด้านยาจึงเห็นควรแจ้งหลักเกณฑ์ ขั้นตอน แนวปฏิบัติ และกรอบรายการยาในการจัดทำราคากลางยา ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2566 ตามมติคณะอนุกรรมการฯ รายละเอียดตาม QR Code และ link ท้ายหนังสือ จึงเรียนมาเพื่อโปรดทราบและแจ้งผู้เกี่ยวข้องต่อไปด้วย จะเป็นพระคุณ LinK : http://ndi.fda.moph.go.th/drug_price/detail/21
ด้วยคณะกรรมการพัฒนาพัฒนาระบบยาแห่งชาติ ได้ออกประกาศ เรื่อง บัญชียาหลักแห่งชาติ พ.ศ. 2565 เมื่อวันที่ 16 มิถุนายน 2565 และฉบับที่แก้ไขเพิ่มเติม และประกาศ เรื่อง บัญชียาหลักแห่งชาติ สำหรับโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) พ.ศ. 2565 เมื่อวันที่ 8 พฤศจิกายน 2565 ไปแล้วนั้น คณะอนุกรรมการพัฒนาบัญชียาหลักแห่งชาติ ได้จัดทำ (ร่าง) แนวทางกำกับการใช้ยา และ (ร่าง) แบบฟอร์มกำกับการใช้ยาในบัญชี จ (2) ตามประกาศข้างต้นแล้วเสร็จ รายละเอียดตามเอกสารแนบด้านล่างซึ่งขณะนี้กำลังอยู่ระหว่างการเสนอประธานกรรมการพัฒนาพัฒนาระบบยาแห่งชาติลงนามในประกาศฯ ทั้งนี้ เพื่อให้การบริหารจัดการการเข้าถึงยาของผู้ป่วยเป็นไปด้วยความเรียบร้อย กองนโยบายแห่งชาติด้านยาจึงขอประชาสัมพันธ์ให้กับกองทุนและสถานพยาบาลรับทราบเป็นข้อมูลในเบื้องต้น สำหรับแนวทางการเบิกจ่ายยานั้นให้เป็นไปตามที่แต่ละกองทุนประกาศกำหนด เอกสารแนบ (ส่วนที่ 1 จาก 2) 1. แนวทางกำกับการใช้ยา human normal immunoglobulin (IVIG) เงื่อนไข ใช้สำหรับ vaccine-induced thrombotic thrombocytopenia (VITT) หลังฉีดวัคซีนป้องกัน COVID-19 2. แนวทางกำกับการใช้ยา human normal immunoglobulin (IVIG) เงื่อนไข ใช้สำหรับเด็กที่มีภาวะกล้ามเนื้อหัวใจอักเสบที่เกิดภายหลังการได้รับวัคซีน COVID-19 ชนิด mRNA 3. แนวทางกำกับการใช้ยา human normal immunoglobulin (IVIG) เงื่อนไข ใช้สำหรับรักษากลุ่มอาการอักเสบหลายระบบ (multisystem inflammatory syndrome in children; MIS-C) ในเด็กที่ติดเชื้อ COVID-19 4. แนวทางการกำกับการใช้ยา Posaconazole เงื่อนไข ใช้สำหรับรักษา invasive mucormycosis ในผู้ป่วยที่ไม่ตอบสนองหรือไม่ทนต่อยา amphotericin B 5. แบบฟอร์มกำกับการใช้ยา posaconazole เงื่อนไข ใช้สำหรับรักษา invasive mucormycosis ในผู้ป่วยที่ไม่ตอบสนองหรือไม่ทนต่อยา amphotericin B 6. แนวทางการกำกับการใช้ยา liposomal amphotericin B เงื่อนไข โรค Invasive fungal infections ในผู้ป่วยที่ไม่สามารถทนต่อยา amphotericin B 7. แบบฟอร์มกำกับการใช้ยา liposomal amphotericin B เงื่อนไข ใช้สำหรับรักษาโรคติดเชื้อราลุกลามในผู้ป่วยที่ไม่สามารถทนต่อยา amphotericin B 8. แนวทางกำกับการใช้ยา nitisinone เงื่อนไขใช้สำหรับรักษา โรคไทโรซีนีเมียชนิดที่ 1 (hereditary tyrosinemia type 1) โดยใช้เฉพาะการรักษาผู้ป่วยก่อนได้รับการปลูกถ่ายตับ (liver transplant) 9. แบบฟอร์มกำกับการใช้ยา nitisinone เงื่อนไขโรคไทโรซีนีเมียชนิดที่1 (hereditary tyrosinemia type 1) โดยใช้เฉพาะการรักษาผู้ป่วยก่อนได้รับการปลูกถ่ายตับ (liver transplant) สำหรับเอกสารแนบส่วนที่ 2 คลิกที่นี่
อ้างถึงหนังสือด่วนที่สุด ที่ กค (กวจ) 0405.2/ว 213 ลงวันที่ 7 พฤษภาคม 2562 คณะกรรมการวินิจฉัยปัญหาการจัดซื้อจัดจ้างและการบริหารพัสดุภาครัฐ กรมบัญชีกลางได้กำหนดแนวทางปฏิบัติในกรณีที่ยารายการใดที่คณะกรรมการพัฒนาระบบยาแห่งชาติ โดยคณะอนุกรรมการพิจารณากำหนดราคากลางยาอยู่ระหว่างการพิจารณาทบทวนปรับปรุงราคากลางยา เพื่อกำหนดราคากลางยาใหม่ นั้น เพื่อให้เป็นไปตามแนวทางปฏิบัติดังกล่าว คณะอนุกรรมการพิจารณากำหนดราคากลางยา โดยกองนโยบายแห่งชาติด้านยา ในฐานะฝ่ายเลขานุการจึงขอแจ้งประกาศรายการยาที่คณะอนุกรรมการพิจารณากำหนดราคากลางยาอยู่ระหว่างพิจารณาทบทวนปรับปรุงราคากลางยา ตามมติอนุกรรมการฯ ในการประชุมครั้งที่ 5/2565 เมื่อวันที่ 21 ธันวาคม 2565 รายละเอียดตามไฟล์แนบ เพื่อให้หน่วยงานของรัฐใช้อ้างอิงในการจัดซื้อยาตามพระราชบัญญัติการจัดซื้อจัดจ้างและการบริหารพัสดุภาครัฐ พ.ศ. 2560 ต่อไป 1. Methylergometrine maleate sterile solution 0.2 mg/1 ml (1 ml) 2. Aluminium hydroxide tablet 500 mg 3. Bromhexine elixir/syrup 4 mg/5 ml (60 ml) 4. Ambroxol syrup 15 mg/5 ml (60 ml) 5. Ambroxol syrup 30 mg/5 ml (60 ml) 6. Lithium carbonate tablet/capsule 300 mg 7. Gemfibrozil capsule 300 mg 8. Gemfibrozil capsule 600 mg 9. Benzylpenicillin (PGS) sterile powder 1 MU/1 vial 10. Salbutamol sulfate solution for nebulizer 1 mg/1 ml (2.5 ml)
ด้วยคณะรัฐมนตรีมีมติเมื่อวันที่ 23 กุมภาพันธ์ 2564 เห็นชอบต่อนโยบายแห่งชาติด้านยาและยุทธศาสตร์การพัฒนาระบบยาแห่งชาติ พ.ศ.2563-2565 และได้กำหนดเป้าหมายให้มีฐานข้อมูลด้านยาสำคัญ ครบถ้วน ที่เข้าถึงง่าย เป็นปัจจุบันถูกต้อง น่าเชื่อถือ สำหรับประชาชน บุคลากรทางการแพทย์ และผู้เกี่ยวข้อง คณะอนุกรรมการส่งเสริมการใช้ยาอย่างสมเหตุผล โดยคณะทำงานเฉพาะกิจเพื่อพัฒนาฉลากยาและข้อมูลยาสำหรับประชาชน จึงได้ดำเนินการคัดเลือกรายการยาที่มีปริมาณการใช้มากในสถานพยาบาล มาจัดทำข้อมูลวิชาการเบื้องต้นสำหรับฉลากยาเสริมในสถานพยาบาล อันประกอบด้วย ชื่อสามัญทางยาในรูปภาษาไทยและข้อมูลคำเตือนหรือข้อควรระวังหรือข้อห้ามใช้ จำนวน 500 รายการ รวมทั้ง ได้จัดทำแนวทางการกำหนดวันสิ้นสุดการใช้ (Beyond-Use Date) ผลิตภัณฑ์ยา ยาแบ่งบรรจุและยาเตรียม ในการจัดทำข้อมูลฉลากยา เพื่อให้สถานพยาบาล รวมถึงร้านขายยา หรือบุคลากรทางการแพทย์ ใช้เป็นข้อมูลเบื้องต้น สำหรับอ้างอิงในการจัดทำฉลากบรรจุยาให้มีความถูกต้อง เป็นปัจจุบัน ส่งเสริมการใช้ยาอย่างสมเหตุผลของประชาชน และนำไปสู่การปฏิบัติอย่างเป็นมาตรฐานต่อไป Disclaimer : ทั้งนี้ ข้อมูลฉลากเสริมนี้เป็นเพียงเครื่องมือที่ช่วยสนับสนุนการทำงาน ไม่สามารถทดแทนการให้คำแนะนำจากบุคลากรทางการแพทย์ที่เป็นผู้จ่ายยาได้ และ เนื่องจากข้อมูลคำเตือนหรือข้อควรระวังหรือข้อห้ามใช้ ที่มีความสำคัญอาจมีการเปลี่ยนแปลงตามบริบทของผู้ใช้ผลิตภัณฑ์ยาและสถานการณ์ ซึ่งผู้ประกอบวิชาชีพจะต้องเป็นผู้พิจารณานำข้อมูลไปปรับใช้ให้เกิดความเหมาะสม โดยสามารถอ้างอิง Patient Information Leaflet ฉบับเต็ม หรือข้อมูลวิชาการอื่นๆเพิ่มเติม การระบุคำเตือนให้กับประชาชน ให้พิจารณาโดยใช้หลักการจัดการความเสี่ยง ควรคัดเลือกเฉพาะรายการที่มีความจำเป็น มีจำนวนการเตือนที่เหมาะสมโดยไม่มากเกินไปจนเกิดความกังวลและไม่ใช้ยา รวมถึงพิจารณาความเหมาะสมจากบริบทของอุปกรณ์เครื่องพิมพ์ ขนาดของฉลาก และขนาดตัวอักษร