ทั้งหมด
มาตรการควบคุมยาและปรับประเภทยาต้านจุลชีพสำหรับมนุษย์ ระยะที่ ๑ ตามมติคณะอนุกรรมการเฉพาะกิจศึกษาการปรับประเภทยาต้านจุลชีพ ๑. สถานการณ์เชื้อดื้อยาต้านจุลชีพ ด้วยมีหลักฐานทางวิชาการชี้ว่า มีการนำยาต้านจุลชีพมาใช้ในมนุษย์โดยไม่มีข้อบ่งชี้หรือใช้อย่างไม่ ถูกต้องอย่างกว้างขวาง ส่งผลให้เกิดการดื้อยาต้านจุลชีพ (Antimicrobial Resistance: AMR) ซึ่งจะเป็นภัยคุกคามที่ร้ายแรงต่อสุขภาพ ทำให้เกิดผลกระทบอย่างกว้างขวางต่อสุขภาพคน สัตว์ และสิ่งแวดล้อม รวมทั้ง ส่งผลเชิงลบต่อเศรษฐกิจทั้งในระดับประเทศและระดับโลก โดยจากสถานการณ์เชื้อจุลชีพดื้อยาในประเทศไทย พบผู้ป่วยติดเชื้อดื้อยาจำนวน ๘๘,๐๐๐ ราย โดย ๑ ใน ๓ ของผู้ป่วยกลุ่มนี้เสียชีวิต ประกอบกับสถานการณ์ ปัจจุบันผู้ป่วยวัณโรคของประเทศไทยเป็น ๑ ใน ๑๔ ประเทศทั่วโลกที่มีปัญหาวัณโรครุนแรง พบผู้ป่วยดื้อยา หลายขนานรุนแรง (XDR-TB) เป็นจำนวน ๑๐% ของกลุ่มผู้ป่วยดื้อยาหลายขนาน (MDR-TB) ส่งผลต่อ ระยะเวลาการรักษาที่นานขึ้นและภาระค่าใช้จ่ายที่สูงขึ้น คิดเป็น ๑.๒ ล้านบาทต่อราย ๒. กรอบรายการยาที่พิจารณา ครอบคลุมยาต้านจุลชีพทุกชนิด และจัดลำดับความสำคัญในการดำเนินงานโดยเริ่มระยะที่ ๑ ที่ รายการยาต้านแบคทีเรียทุกรายการ ได้แก่ ยาในกลุ่มยาต้านวัณโรค (ชนิดรับประทานและชนิดฉีด) และยาในกลุ่มยาต้านจุลชีพชนิดฉีดก่อน ๓. มาตรการกฎหมายที่จะนำมาใช้ในการจัดการความเสี่ยงและการควบคุมยาเพื่อป้องกันปัญหาเชื้อดื้อยา ดำเนินการโดยการปรับประเภทยาและเงื่อนไขการกระจายยา เพื่อควบคุมการกระจายยาและจำหน่ายยา โดยปรับสถานะของยาจากยาอันตรายเป็นยาควบคุมพิเศษ รวมทั้งกำหนดช่องทางการจำหน่ายให้ผู้รับอนุญาตผลิตยาหรือผู้รับอนุญาตนำหรือสั่งยา ต้องปฏิบัติโดยมีรายละเอียดแต่ละกลุ่มและรายการยา ตามเอกสาร ๑ก และ เอกสาร ๑ข ๔. การรับฟังความเห็นต่อภาคส่วนที่เกี่ยวข้อง สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยาได้จัดประชุมชี้แจงเพื่อรับฟังความคิดเห็นต่อการปรับสถานะ และกำหนดช่องทางการจำหน่ายยาต้านจุลชีพสำหรับมนุษย์ระยะที่ ๑ กับภาคส่วนที่เกี่ยวข้อง ได้แก่ สมาคม วิชาชีพต่าง ๆ กรมควบคุมโรค สมาคมเภสัชกรรมชุมชน ชมรมร้านขายยาแห่งประเทศไทย บริษัทยาที่เกี่ยวข้อง เป็นต้น เมื่อวันที่ ๑๙ ตุลาคม ๒๕๖๑ ที่ผ่านมา และได้รับความสนใจเข้าร่วมประชุมจากหลาย หน่วยงานทั้งภาครัฐและเอกชน ทั้งนี้ เพื่อให้เกิดความรอบด้านในการแสดงความคิดเห็น สำนักยาจึงเปิดรับฟัง ความคิดเห็นฯ โดยสามารถดาวน์โหลดและกรอกแบบแสดงความคิดเห็นฯ ได้จากช่องทางดังนี้ ๑. https://goo.gl/v4D1LY ๒. เว็บไซต์ National Drug Information http://ndi.fda.moph.go.th/ ๓. google survey และเมื่อท่านกรอกแบบแสดงความคิดเห็นฯ เรียบร้อยแล้ว กรุณาส่งกลับมายัง email: drugreclass.fda@gmail.com หรือผ่านช่องทาง google survey ตามลิงค์ในเว็บไซต์ ภายในวันที่ ๑๖ พฤศจิกายน ๒๕๖๑
ประกาศคณะกรรมการพัฒนาระบบยาแห่งชาติ เรื่อง กำหนดราคากลางของยา ฉบับนี้ ได้ยกเลิกประกาศคณะกรรมการฯ เรื่อง กำหนดราคากลางยา (ฉบับที่ ๔) ลงวันที่ ๓๐ สิงหาคม ๒๕๖๑ และแก้ไขปรับปรุงราคากลางยาจากประกาศฉบับเดิม (ฉบับลงวันที่ ๒๓ กุมภาพันธ์ ๒๕๖๑) จำนวน ๒๑๕ รายการ โดยมีรายการยาที่มีรายงานปัญหาการจัดซื้อ จำนวน ๑๓ รายการ ดังต่อไปนี้ ๑ Atenolol tab ๕๐ mg ๒ Atenolol tab ๑๐๐ mg ๓ Atenolol tab ๒๕ mg ๔ Enalapril maleate tab ๕ mg ๕ Enalapril maleate tab ๑๐ mg ๖ Enalapril maleate tab ๒๐ mg ๗ Gemfibrozil cap ๓๐๐ mg ๘ Gemfibrozil tab ๖๐๐ mg ๙ Nifedipine cap ๕ mg ๑๐ Nifedipine cap/tab ๑๐ mg ๑๑ Paracetamol tab ๕๐๐ mg ๑๒ Paracetamol tab ๓๒๕ mg ๑๓ Paracetamol syr ๑๒๐ mg/๕ ml (๖๐ ml/ bottle) และปรับปรุงเพิ่มเติมราคากลางยาของยากลุ่มที่มีการผูกขาดจำนวน ๒๐๒ รายการ ได้แก่ รายการยาในกลุ่มยาที่ ๓ ลำดับที่ ๘๗-๙๘, รายการยาในกลุ่มที่ ๖.๒ ลำดับที่ ๔๖-๔๘, รายการยาในกลุ่มที่ ๘ กลุ่มยา Drugs for ophthalmologicals, รายการยาในกลุ่มที่ ๙.๑ ลำดับที่ ๖, รายการยาในกลุ่มที่ ๙.๓ ลำดับที่ ๑๒, รายการยาในกลุ่มที่ ๑๒ กลุ่มยา Antibacterial drugs, รายการยาในกลุ่มที่ ๑๓ กลุ่มยา Antifungal drugs และรายการยาในกลุ่มที่ ๔๑-๔๔ ดังปรากฏตามที่แนบท้ายประกาศฯ ฉบับนี้ สำหรับรายการยาอื่นๆ ยังอยู่ในระหว่างขั้นตอนการพิจารณาปรับปรุงราคากลางยาตามหลักเกณฑ์และขั้นตอนการกำหนดราคากลางยาที่คณะกรรมการฯ กำหนด
คณะอนุกรรมการพิจาณากำหนดราคากลางยาพิจาณาดำเนินการ มีมติเร่งทบทวนและปรับปรุงราคากลางยาที่หน่วยงานรัฐมีปัญหาในการจัดซื้อภายใน 1 ปีที่ผ่านมา ตามประกาศคณะกรรมการพัฒนาระบบยาแห่งชาติ เรื่อง กำหนดราคากลางยา ลงวันที่ 23 กุมภาพันธ์ 2561 และประกาศคณะกรรมการฯ (ฉบับที่ 4) พ.ศ. 2561 ลงวันที่ 30 สิงหาคม 2561 (รายละเอียดปรากฏตามเว็บไซต์ http://ndi.fda.moph.go.th/drug_value) เพื่อให้การพิจารณากำหนดราคากลางยาที่มีปัญหาจัดซื้อของรัฐเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ คณะอนุกรรมการฯ จึงขอเปิดรับข้อเสนอดังนี้ กรณีโรงพยาบาล : ขอความอนุเคราะห์หน่วยงานของท่านพิจารณาจัดทำข้อเสนอทบทวนราคากลางยาที่มีปัญหาจัดซื้อตามแบบทบทวนราคากลางยา (ไฟล์แนบ 1) ภายในเดือนตุลาคม 2561 ในการนี้ ขอให้ส่งแบบเสนอยาที่มีปัญหาเร่งด่วนทางจดหมายอิเล็กทรอนิกส์มายัง nlem.price@gmail.com ทั้งนี้ หากหน่วยงานของท่านไม่สามารถจัดซื้อยาตามราคากลางที่คณะกรรมการพัฒนาระบบยาแห่งชาติกำหนด ให้หน่วยงานของท่านแจ้งสำนักยาทันทีเมื่อทราบจากผู้จำหน่าย กรณีผู้รับอนุญาตผลิต/นำหรือสั่งยาเข้ามาในราชอาณาจักร : เปิดรับข้อเสนอราคากลางยาในการจัดซื้อเฉพาะที่ท่านไม่สามารถจำหน่ายได้ โดยส่งแบบเสนอราคากลางยา (ไฟล์แนบ 2) ทางจดหมายอิเล็กทรอนิกส์มายัง nlem.price@gmail.com ภายในเดือนตุลาคม 2561 ทั้งนี้ หากผู้รับอนุญาตไม่สามารถจำหน่ายยาตามราคากลางที่คณะกรรมการพัฒนาระบบยาแห่งชาติกำหนด ให้ผู้รับอนุญาตแจ้งสำนักยาล่วงหน้าอย่างน้อย 3 เดือน
เมื่อวันที่ 3 กันยายน 2561 เวลา 9.00 น. ผู้ตรวจราชการกระทรวงสาธารณสุข เขตสุขภาพที่ 1 เป็นประธานพิธีเปิดประชุม โครงการประชุมขับเคลื่อน RDU-AMR ที่อาคาร 100 ปี การสาธารณสุขไทย โรงพยาบาลลำพูน โดย ผอ.โรงพยาบาลเชียงรายประชานุเคราะห์ ประธานคณะทำงานขับเคลื่อน Drug & Din เขตสุขภาพที่ 1 กล่าวรายงานการขับเคลื่อน Drug&Din ของเขตสุขภาพที่ 1 โดยมีทีมสาธารณจังหวัดลำพูน นำโดย นพ.สสจ ลำพูน ผอ. รพ.ลำพูน ให้การต้อนรับ และร่วมรณรงค์ประกาศเจตนารมย์ใช้ถุงผ้าแทนถุงหิ้วพลาสติก ของ รพ. และ รพ.สต. ทุกแห่ง และตัวแทนภาคประชาชนมอบถุงผ้าสนับสนุนโยบาย 1,020 ถุง ในโอกาสนี้ผู้ตรวจราชการเขตสุขภาพที่ 1. ได้มอบนโยบายและบรรยายพิเศษเป้าประสงค์และกลยุทธ์ขับเคลื่อน RDU-AMR ของเขตสุขภาพที่ 1 ท่ามกลางผู้ร่วมประชุมจาก 8 จังหวัด ร่วม 250 คน
ประกาศคณะกรรมการพัฒนาระบบยาแห่งชาติ เรื่อง บัญชียาหลักแห่งชาติ พ.ศ. 2561(26 กรกฎาคม 2561) ตามที่ได้มีประกาศคณะกรรมการพัฒนาระบบยาแห่งชาติ เรื่อง บัญชียาหลักแห่งชาติ พ.ศ. 2561 เมื่อวันที่ 26 กรกฎาคม พ.ศ. 2561 นั้น ขณะนี้อยู่ระหว่างรอประกาศลงในราชกิจจานุเบกษา ทั้งนี้ให้ใช้บังคับเมื่อพ้นกำหนดสามสิบวันนับแต่วันประกาศในราชกิจจานุเบกษา เป็นต้นไป พร้อมทั้งได้แนบประกาศคณะกรรมการฯ มาให้ จึงประกาศให้ทราบโดยทั่วกัน กลุ่มนโยบายแห่งชาติด้านยา สำนักยา สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา
ขอเชิญเข้าร่วมประชุมเชิงปฏิบัติการ เรื่อง การจัดทำเอกสารกำกับยาสำหรับประชาชน เพื่อพัฒนาระบบบริการข้อมูลสารสนเทศที่เป็นกลางสำหรับประชาชน สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา ขอเชิญเข้าร่วมประชุมเชิงปฏิบัติการ เรื่อง การจัดทำเอกสารกำกับยาสำหรับประชาชน เพื่อพัฒนาระบบบริการข้อมูลสารสนเทศที่เป็นกลางสำหรับประชาชน ในวันที่ 1-2 สิงหาคม พ.ศ. 2561 เวลา 08.00-16.30 น. ณ โรงแรมไมด้า จังหวัดนนทบุรี ในการนี้ สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา จึงขอแจ้งรายละเอียดการประชุม ดังนี้ 1. กำหนดการประชุมตาม 2. หนังสือเชิญวิทยากรตาม 3. หนังสือเชิญผู้เข้าร่วมประชุมตาม 4. แบบตอบรับวิทยากรตาม 5. แบบตอบรับผู้เข้าประชุมตาม และหากมีข้อสงสัยหรือประสงค์จะสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม สามารถติดต่อได้ที่ กลุ่มนโยบายแห่งชาติด้านยา สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา โทร 02 590 7155
ท่านสามารถ Download เอกสารประกอบการประชุมได้ คลิกที่นี่ ตามที่คณะอนุกรรมการส่งเสริมการใช้ยาอย่างสมเหตุผล โดยคณะทำงานพัฒนาระบบการผลิตและพัฒนากำลังคนด้านสุขภาพเพื่อการใช้ยาอย่างสมเหตุผล จะจัดประชุมเชิงปฏิบัติการ เรื่อง การพัฒนาการเรียนการสอนบุคลากรสุขภาพด้านการใช้ยาอย่างสมเหตุผล ประจำปี 2561 ในวันพุธที่ 20 มิถุนายน – ศุกร์ที่ 22 มิถุนายน 2561 เวลา 08.30-16.30 น. ณ โรงแรมรามาการ์เด้นส์ ถ.วิภาวดีรังสิต กรุงเทพฯ โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อส่งเสริมให้ครูผู้สอนมีความรู้ความเข้าใจต่อเทคนิคการสอนและการออกข้อสอบ การแลกเปลี่ยนประสบการณ์การเรียนการสอนระหว่างครูผู้สอนสถาบันต่างๆ รวมถึงแลกเปลี่ยนความก้าวหน้าการดำเนินการตามบันทึกข้อตกลงความร่วมมืออย่างต่อเนื่องและเกิดการรับรู้ในวงกว้าง สำนักยาจึงขอเชิญอาจารย์ผู้สอนเรื่องการใช้ยาสมเหตุผล และอาจารย์ที่สนใจ คลิกที่นี่เพื่อลงทะเบียนเข้าร่วมการประชุมปฏิบัติการดังกล่าว ภายในวันที่ 8 มิถุนายน 2561 หมายเหตุ: 1. ผู้เข้าประชุมสามารถเข้าร่วมได้โดยไม่ถือเป็นวันลา แต่ต้องได้รับการอนุมัติจากผู้บังคับบัญชา (หนังสือขออนุมัติบุคลากรในสังกัดเข้าร่วมประชุม) 2. ค่าใช้จ่ายสำหรับผู้เข้าประชุมเบิกจากต้นสังกัด
วันที่ 2 พฤษภาคม 2561 เวลา 9.30 - 16.30 น. สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยาเป็นเจ้าภาพในการจัดการประชุมเรื่อง การพัฒนาระบบการใช้ยาอย่างสมเหตุผลและการแก้ปัญหาเชื้อดื้อยาในเขตสุขภาพ ครั้งที่ 2/2561 ณ ห้องประชุมชัยนาทนเรนทร อาคาร 1 ชั้น 1 สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา โดยมี นพ.ธเรศ กรัษนัยรวิวงศ์ รองปลัดกระทรวงสาธารณสุข เป็นประธาน เพื่อหารือการดำเนินการการใช้ยาอย่างสมเหตุผลและการแก้ปัญหาเชื้อดื้อยา (RDU-AMR) ซึ่งเป็นโครงการที่ดำเนินการภายใต้ยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปีด้านสาธารณสุข ด้านบริการที่เป็นเลิศ (service excellence) ต่อเนื่องมาจากปี 2560 การประชุมครั้งที่ 2 เน้นแลกเปลี่ยนและทบทวนการดำเนินงานจากผลการดำเนินงาน กระบวนการหลักและปัจจัยแห่งสู่ความสำเร็จตามเป้าหมายที่ตั้งไว้ โดยเป็นการแลกเปลี่ยนกับทีมส่วนกลาง และพื้นที่อื่นๆ รวมทั้งทีมวิชาการที่จะสนับสนุนการดำเนินการในพื้นที่ต่อไป
ประกาศคณะกรรมการพัฒนาระบบยาแห่งชาติ เรื่อง กำหนดราคากลางยา (ฉบับที่ ๒) พ.ศ. ๒๕๖๑ โดยที่เป็นการสมควรแก้ไขประกาศคณะกรรมการพัฒนาระบบยาแห่งชาติ เรื่อง กำหนดราคากลางยา เพื่อให้การบริหารจัดการราคากลางยาเป็นปัจจุบัน จึงต้องมีการปรับปรุงแก้ไขรายการยาให้ถูกต้องและทันสมัย อาศัยอำนาจตามความในข้อ ๘ (๔) แห่งระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรีว่าด้วยคณะกรรมการพัฒนาระบบยาแห่งชาติ พ.ศ. ๒๕๕๑ คณะกรรมการพัฒนาระบบยาแห่งชาติ จึงออกประกาศไว้ดังต่อไปนี้ ข้อ ๑ ประกาศนี้เรียกว่า “ประกาศคณะกรรมการพัฒนาระบบยาแห่งชาติ เรื่อง กำหนดราคากลางยา (ฉบับที่ ๒) พ.ศ. ๒๕๖๑” ข้อ ๒ ประกาศนี้ให้ใช้บังคับตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป ข้อ ๓ ให้ยกเลิกความในรายการยาลำดับที่ ๓๗ ของกลุ่มยาที่ ๓๓ กลุ่มยาที่มีปัญหาจัดซื้อ ตามบัญชีแนบท้ายประกาศคณะกรรมการพัฒนาระบบยาแห่งชาติ เรื่อง กำหนดราคากลางยา ลงวันที่ ๒๓ กุมภาพันธ์ ๒๕๖๑ และให้ใช้ความต่อไปนี้แทน ที่ รายการยา รูปแบบยาและความแรง หน่วย ราคากลางยาต่อหน่วย (รวมภาษีมูลค่าเพิ่ม) (บาท) หมายเหตุ ๓๓. กลุ่มยาที่มีปัญหาจัดซื้อ ๓๗ Dapsone tab ๑๐๐ mg ๑ เม็ด ๑๒.๐๐ ๑ ข้อ ๔ ราคากลางของยาตามประกาศนี้ เป็นราคาที่รวมภาษีมูลค่าเพิ่ม ร้อยละ ๗ ไว้แล้ว
วันที่ 1 พฤษภาคม 2561 บุคคลากร "รพ.หาดใหญ่" หัวใจ RDU มาที่ตลาดสดกลางเมืองเพื่อนำเสนอสิ่งดีๆ เพื่อสุขภาพแก่พี่น้องประชาชนและผู้ใช้แรงงานเพื่อตระหนักถึงการใช้ยาปฏิชีวนะและผลกระทบจากยาตกค้างในอาหารสัตว์ เป็นที่มาของเชื้อโรคดื้อยา