การประชุมเชิงปฏิบัติการสรรหากรอบรายการยาจากสมุนไพรที่มีศักยภาพในระบบบริการสาธารณสุข เพื่อพัฒนาเข้าสู่บัญชียาหลักแห่งชาติ

อย. และคณะอนุกรรมการพัฒนาบัญชียาหลักแห่งชาติด้านสมุนไพร จัดประชุมเชิงปฏิบัติการร่วมกับภาคีเครือข่ายสรรหารายการยาจากสมุนไพรที่มีศักยภาพเตรียมเสนอเข้าสู่บัญชียาหลักแห่งชาติด้านสมุนไพรเพื่อใช้ในระบบบริการสาธารณสุขของประเทศ
เมื่อวันที่ 16-18 กุมภาพันธ์ 2568 กองนโยบายแห่งชาติด้านยา กองผลิตภัณฑ์สมุนไพร สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา ในฐานะฝ่ายเลขานุการคณะอนุกรรมการพัฒนาบัญชียาหลักแห่งชาติด้านสมุนไพร ร่วมกับคณะทำงานยุทธศาสตร์การพัฒนาบัญชียาหลักแห่งชาติด้านสมุนไพร จัดประชุมเชิงปฏิบัติการสรรหากรอบรายการยาจากสมุนไพรที่มีศักยภาพในระบบบริการสาธารณสุข เพื่อพัฒนาเข้าสู่บัญชียาหลักแห่งชาติ ณ โรงแรมสยามดาษดา เขาใหญ่ จังหวัดปราจีนบุรี โดยมี ภก.วรวิทย์ กิตติวงศ์สุนทร ประธานคณะทำงานยุทธศาสตร์การพัฒนาบัญชียาหลักแห่งชาติด้านสมุนไพร เป็นประธานเปิดการประชุม ซึ่งการประชุมดังกล่าวมีผู้สนใจเข้าร่วมประชุม 60 คน อันได้แก่ ผู้เสนอยาจากภาครัฐในกลุ่มโรงพยาบาลผู้ผลิตและใช้ยาจากสมุนไพร ผู้แทนภาคเอกชน ผู้แทนแหล่งทุนวิจัย ผู้แทนภาคการศึกษา ผู้แทนกองทุนประกันสุขภาพของประเทศ รวมถึง คณะอนุกรรมการและคณะทำงานผู้เชี่ยวชาญด้านการคัดเลือกยาจากสมุนไพร เพื่อค้นหารายการยาสมุนไพรเข้าสู่บัญชียาหลักแห่งชาติ โดยผ่านการถอดบทเรียนจากการพิจารณาคัดเลือกรายการยาจากสมุนไพร สู่แนวทางการพัฒนาข้อมูลหรือหลักฐานเชิงประจักษ์สนับสนุนการคัดเลือกเข้าบัญชียาหลักแห่งชาติ และการกำหนดทิศทางในการเพิ่มรายการยาจากสมุนไพรในบัญชียาหลักแห่งชาติจาก “กรอบรายการยาเชิงรุก” ร่วมกัน บนความเข้าใจและการมีส่วนร่วมจาก ภาคีเครือข่าย ผลของการประชุมพบว่ามีรายการยาจากสมุนไพรที่มีศักยภาพเตรียมเสนอเข้าสู่กระบวนการพิจารณาได้จำนวนหลายรายการ เช่น ยาสำหรับต้านพิษจากสัตว์ ยาสตรี ยาสำหรับข้อเข่าเสื่อม ยาสำหรับผู้ป่วยโรคระบบไหลเวียนโลหิต ยารักษาแผล ยาสำหรับผู้ป่วยติดยาเสพติด เป็นต้น
การประชุมเชิงปฏิบัติการในครั้งนี้ จึงเป็นก้าวที่สำคัญ ที่จะทำให้เกิดการพัฒนาข้อมูลทางวิชาการ ตลอดจนงานวิจัยทางคลินิก หรือหลักฐานเชิงประจักษ์สนับสนุนการคัดเลือกเข้าบัญชียาหลักแห่งชาติด้านสมุนไพร และผลักดันให้มีรายการยาใหม่เข้าสู่บัญชี ทำให้รายการยาจากสมุนไพรมีความหลากหลาย ครอบคลุมกลุ่มอาการที่เป็นปัญหาสาธารณสุขของประเทศ ซึ่งเป็นกลไกหนึ่งที่ส่งเสริมให้เกิดการใช้ยาจากสมุนไพรในระบบบริการสาธารณสุขเพิ่มขึ้น เพิ่มโอกาสการเข้าถึงยาของผู้ป่วย เพิ่มทางเลือกการสั่งใช้ยาของแพทย์ รวมทั้งเกิดการวิจัยอย่างเป็นระบบ ส่งเสริมให้อุตสาหกรรมการผลิตยาจากสมุนไพรมีความเข้มแข็ง สืบสานภูมิปัญญาการแพทย์แผนไทยต่อไป